นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

บริษัท แอสเซท เอ พลัส จำกัด ในกลุ่มบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดว่าเรื่องความเป็นส่วนตัวของท่านเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อบริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการให้ดำเนินธุรกิจและ/หรือให้บริการกับท่าน บริษัทฯตระหนักในความไว้วางใจของท่าน ดังนั้น บริษัทฯจะดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยความระมัดระวังและอย่างสมเหตุสมผล โดยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

บริษัทฯในฐานะผู้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ตามกฎหมายในการแจ้งให้ท่านทราบถึงนโยบาย ความเป็นส่วนตัว ซึ่งอธิบายถึงการเก็บรวบรวม ใช้ วิเคราะห์และประมวลผล รวมถึงเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทฯยืนยันว่าได้ดำเนินการตามกฎหมายฉบับนี้เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว ดังนั้น โปรดตรวจสอบเป็นประจำเพื่อดูว่านโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้รับการแก้ไขครั้งล่าสุดเมื่อใด การเปลี่ยนแปลงใดๆจะมีผลทันทีเมื่อบริษัทฯเผยแพร่นโยบายความเป็นส่วนตัวที่แก้ไขดังกล่าวลงในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ส่วนกรณีเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่เป็นการลิดรอนสิทธิของท่านในส่วนของข้อมูลที่ละเอียดอ่อนตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อขอความยินยอมจากท่านก่อน เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดเป็นอย่างอื่น

1. นิยาม ความหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคล (ทั่วไป) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของคนที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมและข้อมูลนิรนามที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตน ของเจ้าของข้อมูลได้ เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ อีเมล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลของนิติบุคคลตามรูปแบบการจดทะเบียนตามนิยามของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้แก่ เลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษี ที่อยู่ที่ตั้งบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (Sensitive Personal Data) ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษ ซึ่งจำเป็นต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลประเภทนี้ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญาพฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม และข้อมูลชีวภาพ

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทมีการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง ลูกค้า ผู้ถือหุ้น คู่ค้า ผู้ให้บริการ และผู้มีส่วนได้เสียกับบริษัทฯ

ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพหรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ

ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เปิดเผยต่อสาธารณชน เช่น ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการใช้ข้อมูลและรหัสการเข้าระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (social media credential) เช่น Facebook, Instagram, Twitter, Line และรูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันและแพลตฟอร์มใหม่ ๆ ที่มีขึ้นในอนาคต เพื่อเชื่อมต่อหรือเข้าสู่บริการใด ๆ ของบริษัทฯเช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (social media account ID) สิ่งที่สนใจ (interests) รายการที่ชอบ (Likes) และรายชื่อเพื่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว

2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

  1. ช่องการทางได้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มาจากท่านโดยตรง ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
    • การลงทะเบียนโดยการสร้างบัญชีผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
    • การติดต่อกับบริษัทฯเพื่อขอรับข้อมูลโครงการที่อยู่อาศัยที่ท่านสนใจ
    • การนัดหมายเพื่อเข้าชมโครงการที่อยู่อาศัย
    • การให้ข้อมูลของท่านกับบริษัทฯ เมื่อเข้ามาเยี่ยมชมโครงการที่อยู่อาศัย
    • ท่านเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทฯผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือช่องทาง Social Network หรือช่องทางปกติ
    • การสมัครร่วมงานกับบริษัทฯ
    • การสมัครเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ
    • ลูกค้าบริษัท
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาจากคุกกี้ (Cookies) เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้บริษัทฯสามารถจัดให้มีการบริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่าน เมื่อท่านใช้บริการ และ/หรือเข้าสู่แพลตฟอร์ม
  3. ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่สาม เช่น ตัวแทน ร้านค้า หรือบริษัทที่ให้การบริการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล คู่ค้า พันธมิตร เป็นต้น
  4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากข้อมูลสาธารณะ (Public Records) และที่ไม่ใช่สาธารณะ (Non-Public Records) ที่บริษัทฯมีสิทธิเก็บรวบรวมได้ตามกฎหมาย
  5. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย
  6. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทในเครือ

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

วัตถุประสงค์ทั่วไปสำหรับการดำเนินธุรกิจ

  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลภายนอก หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของท่าน โดยที่ไม่ทำให้สิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นลดน้อยลง และ/หรือ
  • เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา และ/หรือ
  • เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ
  • เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย นโยบาย ข้อบังคับและการขั้นตอนการปฎิบัติงานภายในของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึง การตรวจสอบบัญชี และ/หรือ
  • เพื่อสำหรับการทำธุรกรรมระหว่างคุณกับบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้กับคุณอย่างเหมาะสม และ/หรือ
  • เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัยและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่บริษัทฯเป็นเจ้าของหรือบริหารจัดการ รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆที่อยู่ในบริเวณทรัพย์สินที่บริหารจัดการของบริษัทฯ และ/หรือ
  • เพื่อดำเนินการวิจัยและวิเคราะห์ทางสถิติรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ หรือการประเมินและปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ของบริษัทฯ และ/หรือ
  • เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางธุรกิจต่างๆ
  • เพื่อช่วยคุณในการร้องขอข้อสงสัยและข้อเสนอแนะของคุณ

วัตถุประสงค์ด้านการตลาด

  • หากคุณให้ความยินยอมเราอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำการตลาดผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ, พันธมิตรและผู้ร่วมธุรกิจของบริษัทฯเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด อาทิ แจ้งให้คุณทราบถึงกิจกรรมล่าสุดข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่นของบริษัท และ/หรือ ให้บริษัทฯทำการตลาดในการแจ้งผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าความสนใจและเกี่ยวข้องกับคุณเป็นพิเศษ เป็นต้น

วัตถุประสงค์เพื่อการดำเนินการที่ชอบด้วยกฎหมาย

นอกเหนือจากการรวบรวม,ใช้, การเปิดเผยและการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ จากความยินยอมของคุณหรือเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำกับคุณแล้ว บริษัทฯยังอาจดำเนินการดังกล่าวเพื่อการดำเนินธุรกิจที่ชอบด้วยกฎหมายของเรา (โดยที่ไม่ได้ลบล้างผลประโยชน์หรือสิทธิ์ของคุณ) ดังนี้

  1. เพื่อการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัทฯ
    บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณแก่บุคคลที่สาม ที่ให้บริการแก่บริษัทฯ รวมถึงผู้ให้บริการและผู้ประมวลผลข้อมูลของบริษัทฯ เช่น เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting), การประมวลผลข้อมูล (Data Analysis), บริการส่งข้อความ, การจัดการธุรกรรมการชำระเงิน, การตลาด,ทรัพยากรบุคคล และที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯ
  2. ผู้จอง/ซื้อ ฝากขาย/เช่า โครงการของบริษัทฯ
    หากคุณทำการจองหรือเข้าพักในสถานที่ให้บริการที่บริษัทฯเป็นเจ้าของหรือบริษัทฯบริหารจัดการ บริษัทฯอาจจะ
    • ใช้สำหรับการสื่อสารก่อนเข้าเยี่ยมชมโครงการ , สื่อสารหลังเข้สเยี่ยมชมโครงการ จอง ซื้อ ทำสัญญา  ตลอดจนการส่งแบบสำรวจความพึงพอใจ และ/หรือ
    • ใช้สำหรับเชิญคุณเข้าร่วมโปรแกรมสมาชิกของบริษัทฯ หรือ การสมัครสมาชิกทางอีเมล เพื่อรับข้อมูลข่าวสารของบริษัทฯ และ/หรือ
    • ใช้เพื่อประเมินความต้องการของคุณ ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีของคุณสำหรับการจอง ซื้อ การเข้าใช้บริการของบริษัทฯ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
  3. ผู้สมัครงาน
    • หากคุณเป็นผู้สมัครงาน บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กับบริษัทในเครือของบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์ในการเสนอโอกาสในการจ้างงานเพิ่มเติม
  4. นักลงทุนและ/หรือผู้ถือหุ้น
    หากคุณเป็นนักลงทุนหรือผู้ถือหุ้นของบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด(มหาชน) บริษัทฯอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ สำหรับ
    • ส่งข้อมูลต่างๆของบริษัทฯ และ/หรือ
    • เพื่อสร้างความสัมพันธ์สำหรับนักลงทุน และผู้ถือหุ้น และ/หรือ
    • ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นในการให้บริการกับท่าน เพื่อให้ท่านติดต่อสอบถามข้อมูล และเพื่อดำเนินธุรกิจในทางที่ท่านสามารถคาดหวังได้ว่าบริษัทฯจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการนั้น บริษัทฯอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆ ของท่าน ซึ่งสามารถจำแนกเป็นกลุ่มได้ ดังนี้

ข้อมูลการติดต่อ (Contact Data)

ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, โครงการที่อยู่อาศัยที่ท่านสนใจ, ช่วงงบประมาณในการซื้อโครงการ, เหตุผลในการซื้อที่อยู่อาศัย

ข้อมูลด้านเทคนิค (Technical Data)

ได้แก่ หมายเลข IP Address ของคอมพิวเตอร์, ชนิดของบราวเซอร์, การตั้งค่าเรื่องเขตเวลา (time zone), ที่ตั้ง (location), ระบบปฏิบัติการ, แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้เข้าเว็บไซต์

ข้อมูลการใช้งาน (Usage Data)

ได้แก่ หน้าเว็บไซต์ที่ท่านเข้าถึงก่อนที่ท่านจะเข้าสู่แพลตฟอร์ม, หน้าเว็บไซต์ที่ท่านเข้าชม, จำนวนเวลาที่ท่านใช้ในการชมหน้าเว็บไซต์, สินค้าหรือข้อมูลที่ท่านค้นหาในแพลตฟอร์ม, เวลาและวันที่เข้าชมเว็บไซต์, ข้อมูลการกดดูเว็บไซต์ , Fackbook Page

ข้อมูลการสื่อสาร (Communication Data)

ได้แก่ อีเมล, บันทึกข้อมูลสนทนา และข้อมูลในการสื่อสาร

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญา (Contract-related Data)

ได้แก่ เลขประจำตัวประชาชน, ที่อยู่, หมายเลขบัตรเครดิต, วันเดือนปีเกิด, เพศ

บริษัทฯได้แสดงรายละเอียดของการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ โดยจำแนกตามประเภทของกิจกรรม ดังต่อไปนี้

กิจกรรม

ประเถทข้อมูล

วัตถุประสงค์ในการประมวลผล

1) ให้บริการลูกค้า

  • ข้อมูลการติดต่อ
  • ข้อมูลการสื่อสาร
  • ข้อมุลแบบสอบถาม (Questionaire)
  • เพื่อการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาให้บริการ
  • เพื่อการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการที่ท่านสนใจ
  • ฐานความยินยอม

 

2) การให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการที่ลูกค้าสนใจ

  • ข้อมูลประชาสัมพันธ์
  • ฐานความยินยอม

3) เพื่อจัดการความสัมพันธ์กับท่านในฐานะลูกค้า (Customer Relations) โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย

  • ข้อมูลการติดต่อ
  • ข้อมูลการสื่อสาร
  • ฐานความยินยอม

4) เพื่อบริหารจัดการเว็บไซต์ของบริษัทฯ พัฒนาบริการของบริษัทฯ และเพื่อแก้ปัญหาในเชิงเทคนิคที่เกิดขึ้นในการใช้เว็บไซต์

  • ข้อมูลการติดต่อ
  • ข้อมูลการสื่อสาร
  • ข้อมูลการใช้งาน
  • ฐานความยินยอม

5) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในการพัฒนาเว็บไซต์ และพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าในการรับบริการจากบริษัทฯ

  • ข้อมูลด้านเทคนิค
  • ข้อมูลการใช้งาน
  • ฐานความยินยอม

6) เพื่อทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

  • ข้อมูลการติดต่อ
  • ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญา
  • เพื่อการจำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามสัญญา

7) ติดต่อและส่งข้อมูลกับธนาคารเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินการด้านการสมัครขอสินเชื่อ

  • ข้อมูลการติดต่อ
  • ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญา
  • บริษัทฯจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในการนำข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับการปฏิบัติตามสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการสมัครขอสินเชื่อ

8) เพื่อทำการตลาดแบบตรงกับท่านในการเสนอโครงการหรือบริการอื่นที่ท่านอาจสนใจ (เฉพาะกรณีที่ท่านให้ความยินยอม)

  • ข้อมูลการติดต่อ
  • บริษัทฯจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในการนำข้อมูลส่วนบุคคลท่านไปทำการตลาดแบบตรงสำหรับการเสนอโครงการที่อยู่อาศัยหรือบริการที่ท่านอาจสนใจ

9) เพื่อใช้สำหรับการรับมอบอำนาจ สำหรับการติดต่อหน่วยงานราชการ เพื่อการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด หรือ บ้าน

  • ข้อมูลการติดต่อ
  • ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญา

 

  • บริษัทฯจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในการนำข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการจำเป็นสำหรับการปฎิบัติตามสัญญา

 

10) เพื่อบริการจัดการด้านนิติบุคคลและการอยู่อาศัยและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการอยู่อาศัย

  • ข้อมูลการติดต่อ
  • ข้อมูลการสื่อสาร
  • เพื่อการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา

 

 

บริษัทฯ อาจใช้ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรมมากกว่าหนึ่งฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในแต่ละกิจกรรมของบริษัทฯ ที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  1. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
    1. ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับบริษัทฯ ได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
    2. หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทฯ หรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง          อาจส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ได้
    3. หากท่านมีอายุไม่ครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ก่อนการให้ความยินยอมโปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้บริษัทฯ ทราบ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย

 

  1. ระยะเวลาจัดเก็บ และสถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นโดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์และความจำเป็นที่บริษัทฯจะต้องจัดเก็บรวบรวมและประมวลผล ซึ่งรวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับในเรื่องดังกล่าว บริษัทฯจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลังระยะเวลาที่สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัทสิ้นผลบังคับระยะเวลาหนึ่ง และสอดคล้องตามระยะเวลาและอายุความของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯจะจัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้วก็ตาม เช่น กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีหรือพิจารณาคดีตามกฎหมาย เป็นต้น

  1. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล

 

1. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทฯ และบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

2. บริษัทฯ จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็น หรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

3. บริษัทฯได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯมีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับและมีความปลอดภัยตามมาตรการที่บริษัทกำหนด เมื่อต้องมีการดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

8. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ

บริษัทฯจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้โดยตรงกับบริษัทฯ และ/หรือ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯได้รับจากการให้บริการหรือการดำเนินงานของบริษัทฯ

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการระบุตัวตนของบุคคลธรรมดา บุคคลธรรมดาที่ระบุตัวตนได้ หมายความถึง บุคคลหนึ่งซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยเฉพาะเจาะจงโดยตรงหรือโดยอ้อม โดยอ้างอิงจากตัวบ่งชี้ใดๆ เช่น

  • ชื่อ
  • อีเมล
  • ที่อยู่ / ที่อยู่สำนักงาน
  • เบอร์โทรศัพท์
  • เลขที่บัตรประชาชน
  • หมายเลขหนังสือเดินทาง
  • วันเกิด
  • สัญชาติ
  • เพศ
  • หมายเลขบัตรเครดิต
  • หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address)

ข้อมูลพฤติกรรมการสืบค้น หมายถึง ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องต่อบุคคลธรรมดาที่ระบุตัวตนได้ เช่น ประเภทเบราเซอร์ โดเมน เว็บไซต์ที่เยี่ยมชม เวลาเข้าเว็บไซต์ ที่อยู่เว็บไซต์อ้างอิงข้อมูลเพื่อการสนับสนุนลูกค้า โดยจะมีการเก็บ log การใช้งานของท่านจากบนแอพพลิเคชั่นของทางบริษัทฯ

ข้อมูลระบบ หมายถึง ข้อมูลที่บริษัทจัดเก็บโดยอัติโนมัติเมื่อท่านล๊อคอินเข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัท ไม่ว่าจะผ่านทางคุ้กกี้ เว็บบีคอน ไฟล์ล๊อคอิน สคริปท์ รวมถึง ข้อมูลทางเทคนิค เช่น ที่อยู่ไอพี ประเภทของบราวเซอร์ โดเมน ประวัติเว็บไซต์ที่เยี่ยมชม เวลาการเข้าใช้งาน ที่อยู่เว็บไซต์ที่อ้างอิง ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านค้นหาหรือที่ท่านดูในขณะที่ใช้เว็บไซต์ของบริษัทฯรวมถึง พฤติกรรมการใช้งานแอพพลิเคชั่น

ข้อมูลที่ตั้ง หมายถึง ข้อมูลที่ได้รับจากจีพีเอส ไวไฟ เข็มทิศ เครื่องวัดความเร่ง IP Address หรือโพสต์สาธารณะซึ่งระบุข้อมูลที่ตั้ง

คุ้กกี้ หมายถึง Text Files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่านที่ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล Log การใช้งานอินเทอร์เน็ตของท่านหรือพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน บริษัทใช้คุ้กกี้ ในการจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านเพื่อช่วยให้เราสามารถจัดให้มีการบริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่าน เมื่อท่านใช้บริการผ่านเว็บไซต์บริษัทฯ โดยจะใช้คุ้กกี้ ในกรณีดังต่อไปนี้

  • เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies): ใช้ Cookies ประเภทนี้เพื่อช่วยให้เราจดจำอุปกรณ์หรือบราวเซอร์ของท่านเพื่อให้เราสามารถจัดทำเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจส่วนบุคคลของท่านได้รวดเร็วขึ้น และช่วยให้การบริการและแพลตฟอร์มสะดวกสบายและเป็นประโยชน์ต่อท่านมากขึ้น ในการปิดใช้งาน Cookies นี้ ท่านสามารถตั้งค่าอุปกรณ์ของท่านโดยดูวิธีการช่วยเหลือของเบราเซอร์หรืออุปกรณ์ของท่าน
  • เพื่อการวิเคราะห์ (Analytic cookies): ใช้ Analytics Cookies ที่ให้บริการโดย Facebook และ Google หรืออื่นๆ เพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการให้ท่านผ่านการโฆษณาใน Social Media ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้บุคคลภายนอกเหล่านี้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สามารถทำได้โดยการไม่กดปุ่มยอมรับการใช้งานคุกกี้ บนหน้าเว็บไซต์เรา

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ

ในการเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือให้บริการของบริษัทฯ หรือการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทในบางกรณี บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ เช่น สำเนาบัตรประชาชนที่ปรากฏ ศาสนา บนหน้าบัตรประชาชน ข้อมูลชีวภาพและข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งในกรณีนี้ บริษัทฯจะแจ้งและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ. หรือแจ้งขอให้ปกปิดศาสนาบนบัตรประชาชน

9. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกลุ่มบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)

บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับองค์กรภายในกลุ่มบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) ตามวัตถุประสงค์ที่อธิบายไว้ในข้อที่ 3 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอก องค์กร หรือหน่วยงานภายนอก

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ที่อธิบายไว้ในข้อที่ 3 วัตถุประสงค์ประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้างต้น โดยการเปิดเผยข้อมูลเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาต ในกรณีดังต่อไปนี้

  • ผู้ขายและผู้ให้บริการบุคคลที่สามของบริษัทฯ ซึ่งมีส่วนร่วมในการให้บริการทางธุรกิจการสนับสนุนการปฏิบัติงาน และ/หรือ การบริหารกิจการของบริษัทฯ เช่น การตรวจสอบ, กฎหมาย, ข้อมูลด้านการตลาด, รายละเอียดการชำระเงิน, และการปฎิบัติคำสั่งซื้อ , ผู้ตรวจสอบบัญชี , สรรพกร , กรมแรงงาน
  • บุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ที่บริษัทฯเข้าไปร่วมทำตลาดและการส่งเสริมการขาย
  • หน่วยงานรัฐบาล รัฐบาล หรือองค์กรอื่นตามกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่ง คำร้องขอ เพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย
  • สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศรวมถึงกองทุนทางการเงินที่บริษัทฯ ติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือทางด้านการเงิน

10. การโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

ในกรณีที่บริษัทฯ มีการโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือ สัญญาร่วมธุรกิจกับหน่วยงาน องค์กรที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย อาทิ

  • กรณีที่บริษัทฯมีความจำเป็นในการจัดเก็บ และ/หรือ โอน ถ่าย ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการจัดเก็บ
  • การประมวลผลในระบบคลาวด์ (Cloud) บริษัทฯจะพิจารณาองค์กรที่มีมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยในระดับสากล และจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบการเข้ารหัส หรือวิธีการอื่น ๆ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เป็นต้น

11. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด

นอกจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นและภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย บริษัทฯจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับโปรโมชั่นต่าง ๆ ทางไปรษณีย์ อีเมล และด้วยวิธีการอื่นใด รวมถึงการดำเนินการด้านการตลาดแบบตรง เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับจากการเป็นลูกค้าของบริษัทผ่านการแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง

ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับการสื่อสารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดจากบริษัทฯยกเว้นการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องและจำเป็น และ/หรือบริการที่บริษัทได้ให้แก่ท่าน เช่น ใบแจ้งเตือนการชำระค่างวด และใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น

12. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการดำเนินการตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ดังต่อไปนี้

สิทธิขอถอนความยินยอม

  • หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯเว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่

สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล

  • ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯเปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นได้มาอย่างไรโดยปราศจากความยินยอมของท่าน

สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล

  • ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

สิทธิขอคัดค้าน

  • ท่านมีสิทธิขอคัดค้านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯหรือของบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทฯจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี

สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล

  • ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
    การลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือการยกเลิกความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถทำได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายและสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทฯเท่านั้น
    ทั้งนี้ การใช้สิทธิดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อกรณีการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทฯหรือกรณีการให้บริการอื่น ๆ เนื่องจากจะไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ จึงอาจเกิดข้อจำกัดในการให้บริการในบางส่วนที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และอาจทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ได้รับสิทธิประโยชน์การบริการ และข่าวสารจากบริษัทต่อไป

สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล

  • ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทฯระงับการใช้แทน

สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล

  1. ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

การใช้สิทธิ

  • การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นสามารถทำได้โดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิและยื่นคำร้องต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ
    อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยหากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทฯจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

ระยะเวลาดำเนินการในการใช้สิทธิประเภทต่าง ๆ

สิทธิ

ระยะเวลาดำเนินการ

สิทธิขอถอนความยินยอม

30 วัน

สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล

 

45 วัน

สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล

สิทธิขอคัดค้าน

สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล

สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล

สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล

30 วัน

13. การบริหารจัดการปัญหาในกรณีที่มีการรั่วไหลของข้อมูล

บริษัทฯ กำหนดแนวทางเพื่อจัดการปัญหาในกรณีที่เกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล ไว้ ดังนี้

  1. เมื่อมีการตรวจพบหรือได้รับเรื่องร้องเรียนถึงการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ที่ตรวจพบหรือได้รับเรื่องร้องเรียนต้องรายงานกับประธานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ประสานงานกับฝ่ายที่เป็นผู้รับผิดชอบข้อมูลในการค้นหาสาเหตุที่เกิดการรั่วไหลของข้อมูล พร้อมทั้งรายงานให้กับหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายระบุไว้
  2. เมื่อตรวจพบสาเหตุซึ่งเกิดจาก
  • ระบบงานของบริษัทฯ ให้ประสานงานกับฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อระงับหรือปิดระบบงานชั่วคราว เพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาด หรือแจ้งให้กับผู้ให้บริการภายนอกของระบบงานนั้นดำเนินการแก้ไขทันที
  • บุคคลภายในบริษัทฯ ให้ดำเนินการระงับการเข้าถึงข้อมูลของบุคคลนั้นโดยทันที และดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรการของบริษัทฯ
  • ผู้ให้บริการภายนอก ให้ผู้ให้บริการภายนอกตรวจสอบสาเหตุและแจ้งกลับบริษัทฯ ภายใน ๒๔ ชั่วโมง นับจากที่บริษัทฯ ได้แจ้งข้อมูลไป ซึ่งในระหว่างนั้นบริษัทฯ จะระงับการส่งข้อมูลให้ผู้ให้บริการภายนอกรายนั้นๆ ชั่วคราว จนกว่าจะแก้ไขปัญหาได้
  1. สำหรับข้อมูลที่รั่วไหลออกไป บริษัทฯ จะดำเนินการจัดการกับข้อมูลนั้นๆ โดยจำกัดความเสียหายให้ได้มากที่สุด ตามกระบวนการทางกฎหมายหรือวิธีอื่นๆ ตามแต่กรณี
  2. บริษัทฯ จะแจ้งความคืบหน้าให้ผู้ร้องเรียนทราบเป็นระยะ ถึงความคืบหน้าของการจำกัดความเสียหาย สาเหตุ การป้องกันที่แก้ไขที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการไปในแต่ละขั้นตอน


14. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ Website อื่น

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของบริษัทฯและการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ เท่านั้น หากท่านได้กด Link ไปยังเว็บไซต์อื่น (แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทฯก็ตาม) ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้นๆ แยกต่างหากจากของบริษัทฯ

15. การปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้ในอนาคต ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย และการเปลี่ยนแปลงใด ๆ บริษัทจะประกาศให้ทราบผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ

16. ช่องทางการติดต่อ

หากท่านต้องการติดต่อเพื่อขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล หรือหากมีข้อสงสัยหรือข้อร้องเรียนใดๆ ท่านสามารถติดต่อได้ ดังช่องทางต่อไปนี้

ติดต่อทางอีเมล์ : dpo@assetwise.co.th

ที่อยู่ : เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Data Protection Officer (DPO)

บริษัท แอสเซท เอ พลัส จำกัด   9 ซอยรามอินทรา 5 แยก 23 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220

ศูนย์บริการลูกค้า (ส่วนควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล) : 02-168-0000 (ทุกวัน เวลา 8:00 – 20:00 น.)